การวินิจฉัยไมเกรน โดยอาศัย IHS Classification 1988 แบ่งไมเกรนออกเป็น
1. ไมเกรนที่ไม่มีระยะ aura อาศัยหลักดังนี้
1.1 เกิดอาการแบบเดียวกันนี้หลายครั้ง (อย่างน้อย 5 ครั้ง)
1.2 อาการปวดกินเวลานาน 4-72 ชั่วโมง
1.3 ลักษณะอาการปวด 4 อย่าง คือ เป็นข้างเดียว เป็นจังหวะ ปวดปานกลางถึงรุนแรง เป็นรุนแรงขึ้นเมื่อทำกิจกรรม
1.4 อาการร่วมได้แก่ คลื่นไส้อาเจียน กลัวเสียง กลัวแสง
1.5 ไม่มีสาเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ปวดศีรษะ
2. ไมเกรนที่มีระยะ aura อาศัยหลักดังนี้
2.1 เกิดขึ้นบ่อยครั้ง น้อยกว่าของไมเกรนที่ไม่มีระยะ aura (เพียง 2 ครั้ง)
2.2 เน้นลักษณะของ aura คือ เป็นนานกว่า 4 นาที แต่ไม่นานกว่า 60 นาที และจะมีอาการปวดศีรษะตามมาภายใน 60 นาที
2.3 ไม่มีสาเหตุอย่างอื่นที่ทำให้ปวดศีรษะ
3. ไมเกรนที่มีลักษณะพิเศษอื่น ๆ เช่น
3.1 เกี่ยวกับระยะ aura เช่น มีลักษณะของ aura จำเพาะได้แก่มี homonymous visual disturbance, อ่อนแรง หรือชาข้างเดียว, aphasia ใน migraine with typical aura หรือมีระยะ aura นานกว่า 60 นาที แต่น้อยกว่า 7 วัน ใน migraine with prolonged aura หรือมีระยะ aura เกิดสั้นภายใน 4 นาที ใน migraine with acute onset aura
3.2 มีประวัติครอบครัวใน familial hemiplegic migraine
3.3 basilar migraine มีลักษณะของ aura เป็นอาการที่เกิดที่ basilar artery
3.4 ไม่มีอาการปวดศีรษะตามมาใน migraine without headache
3.5 เกี่ยวกับอาการทางตา เช่น มีอาการอัมพาตของเส้นประสาทสมองที่ 3,4 และ 6 ใน ophthalmoplegic migraine หรือมี scotoma ใน retinal migraine
3.6 เกิดในเด็กได้แก่ benign paroxysmal vertigo of childhood และ alternating gemiplegia of childhood
3.7 มีลักษณะเข้าได้มากกว่า 1 รูปแบบของไมเกรน และยังพบว่าผู้ป่วยไมเกรนที่มีระยะ aura มักจะมีช่วงที่เป็นไมเกรนที่ไม่มีระยะ aura ด้วย และจากสถิติของคลินิกปวดศีรษะของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ยังพบผู้ป่วยไมเกรนมีอาการปวดศีรษะแบบ tension-type ได้ 23 ราย ต่อผู้ป่วยทั้งหมด 120 ราย
จากบทความของ
นพ. บัลลังก์ เอกบัณฑิต
และ นพ. กัมมันต์ พันธุมจินดา
|